เทคโนโลยีการกัดโลหะด้วยไฟฟ้า หรือ EDM (Electrical Discharge Machining) ถือเป็นหนึ่งในกระบวนการผลิตที่สำคัญในอุตสาหกรรมแม่พิมพ์และงานที่ต้องการความละเอียดสูง โดยกระบวนการ Wire Cut EDM และ Die Sink EDM แม้จะอยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่มีหลักการทำงานและการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน การทำความเข้าใจความต่างของทั้งสองแบบจึงช่วยให้เลือกเครื่องจักรได้เหมาะกับงานมากที่สุด
Wire Cut EDM คืออะไร?
Wire Cut EDM หรือการตัดโลหะด้วยเส้นลวด เป็นกระบวนการที่ใช้ลวดทองเหลืองหรือโลหะเป็นตัวนำไฟฟ้า เรียกว่า Wire Electrode ในการกัดโลหะตามแนวเส้น จุดเด่นสำคัญคือสามารถตัดชิ้นงานที่มีความซับซ้อนสูงได้อย่างแม่นยำ เช่น ชิ้นส่วนแม่พิมพ์และชิ้นงานที่ต้องการความละเอียดระดับไมครอน
Die Sink EDM คืออะไร?
Die Sink EDM หรือบางครั้งเรียกว่า Sinker EDM เป็นการใช้ Electrode รูปทรงที่ผลิตขึ้นเฉพาะงานในการกัดลงบนโลหะตามรูปทรงของอิเล็กโทรด เหมาะกับงานแม่พิมพ์ เช่น แม่พิมพ์พลาสติก แม่พิมพ์ฉีด รวมถึงงานที่ต้องการความลึกหรือรูปทรงที่เครื่องจักรอื่นทำไม่ได้
ความแตกต่างหลักระหว่าง Wire Cut กับ Die Sink EDM
- รูปแบบการกัด: Wire Cut ใช้ลวดตัดลึกตลอดแนว ส่วน Die Sink ใช้อิเล็กโทรดกัดเป็นรูปทรงเฉพาะ
- ความแม่นยำ: Wire Cut ให้ความละเอียดสูงกว่า เหมาะกับงานตัดชิ้นส่วนละเอียด
- วัสดุอิเล็กโทรด: Wire Cut ใช้ลวด (ใช้แล้วทิ้ง) ส่วน Die Sink ใช้อิเล็กโทรดทองแดง/กราไฟท์ ทำขึ้นเฉพาะชิ้นงาน
- ประเภทงาน: Wire Cut เหมาะกับงานตัดรูปทรง, Die Sink เหมาะกับงานกัดลึกหรือแม่พิมพ์
- ความเร็ว: Die Sink ทำงานได้เร็วกว่าในงานกัดลึก ส่วน Wire Cut เน้นละเอียดแต่ใช้เวลานานกว่า
สรุป
ทั้ง Wire Cut และ Die Sink EDM มีจุดเด่นและจุดประสงค์ในการใช้งานต่างกัน การเลือกใช้ต้องพิจารณาตามรูปแบบงาน ความละเอียดที่ต้องการ และต้นทุนการผลิต สำหรับงานตัดชิ้นงานที่ซับซ้อน แนะนำใช้ Wire Cut ส่วนงานแม่พิมพ์ลึกหรือขึ้นรูปเฉพาะ แนะนำใช้ Die Sink EDM

