การออกแบบ แม่พิมพ์พลาสติก (Plastic Mold) ในโปรแกรม Fusion 360 ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในงานแม่พิมพ์อุตสาหกรรมยุคใหม่ เพราะช่วยให้การผลิตแม่พิมพ์มีความแม่นยำสูง ลดข้อผิดพลาด และสามารถจำลองการไหลของพลาสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะแนะนำเทคนิคสำคัญที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ใช้งานระดับทำงานจริง
1. เตรียมโมเดลชิ้นงานก่อนทำแม่พิมพ์
ก่อนเริ่มสร้างแม่พิมพ์ จำเป็นต้องตรวจสอบโมเดล 3D ให้สมบูรณ์ เช่น ความหนาชิ้นงาน รัศมีมุมโค้ง (Fillet) และจุดที่อาจเกิด Undercut จากการเปิดแม่พิมพ์ ขั้นตอนนี้เป็นพื้นฐานสำคัญของงานแม่พิมพ์พลาสติกทุกประเภท
2. ใช้คำสั่ง Draft เพื่อให้ถอดชิ้นงานออกจากแม่พิมพ์ได้ง่าย
Draft Angle ใน Fusion 360 เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยให้ชิ้นงานถูกดึงออกจากแม่พิมพ์ได้โดยไม่ติดค้าง ควรตั้งค่ามุม Draft ตั้งแต่ 1–3 องศา หรือมากกว่านั้นตามลักษณะผลิตภัณฑ์พลาสติก
3. สร้าง Parting Line และ Parting Surface อย่างถูกต้อง
การกำหนดแนวแบ่งแม่พิมพ์ (Parting Line) และพื้นผิวแบ่ง (Parting Surface) เป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบแม่พิมพ์ ใน Fusion 360 สามารถเลือกเส้นขอบของโมเดลเพื่อสร้างพื้นผิวแบ่งได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดปัญหาชิ้นงานค้างในแม่พิมพ์หรือเกิดรอยเยินบริเวณรอยต่อ
4. ใช้ Mold Environment เพื่อสร้าง Core และ Cavity แบบอัตโนมัติ
Fusion 360 มีฟังก์ชัน Mold Workspace ที่ช่วยแยกโมเดลเป็น Core และ Cavity ได้โดยอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาและลดความผิดพลาดในการสร้างแม่พิมพ์พลาสติกขนาดเล็กและขนาดใหญ่
5. จำลองการไหลของพลาสติก (Plastic Flow Simulation)
การทำ Simulation จะช่วยวิเคราะห์ปัญหา เช่น การเกิด Air Trap, Weld Line หรือการไหลไม่เต็ม เป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของแม่พิมพ์และลดต้นทุนในการทดลองฉีดงานจริง
สรุป
การใช้ Fusion 360 ในการสร้าง แม่พิมพ์พลาสติก เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำ และสามารถทำงานร่วมกับทีมออกแบบและฝ่ายผลิตได้อย่างราบรื่น เหมาะกับสายงานแม่พิมพ์อุตสาหกรรมและนักออกแบบที่ต้องการพัฒนาทักษะในระดับมืออาชีพ

