การเลือกประเภทของแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพของชิ้นงาน รอบเวลาการผลิต (Cycle Time) และต้นทุนรวมของการผลิตทั้งหมด แม่พิมพ์หลัก ๆ ที่ใช้กันทั่วไปในการฉีดพลาสติกแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
🔍 การเปรียบเทียบประเภทของแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก
| ประเภทแม่พิมพ์ | หลักการทำงานและโครงสร้าง | ข้อดี (Advantages) | ข้อเสีย (Disadvantages) | ต้นทุน (Cost) |
| 1. แม่พิมพ์ 2 แผ่น (Two-Plate Mold) | เป็นแม่พิมพ์ที่มีโครงสร้างง่ายที่สุด มี 1 เส้นแบ่งส่วนแม่พิมพ์ (Parting Line) เมื่อเปิดแม่พิมพ์ ชิ้นงานและทางวิ่ง (Runner) จะถูกดีดออกมาพร้อมกัน (ระบบ Cold Runner) | 🔹 โครงสร้างง่ายและไม่ซับซ้อน 🔹 ต้นทุนการผลิตแม่พิมพ์เริ่มต้น ต่ำสุด 🔹 รอบเวลาการทำงาน (Cycle Time) เร็ว | 🔸 ตำแหน่งจุดฉีด (Gate) มีข้อจำกัด (มักอยู่ที่ขอบ) 🔸 ต้องมี เศษพลาสติกจากทางวิ่ง (Runner Waste) ที่ต้องตัดออกและนำไปรีไซเคิล | ต่ำ (Low) |
| 2. แม่พิมพ์ 3 แผ่น (Three-Plate Mold) | มี 2 เส้นแบ่งส่วนแม่พิมพ์ โดยมีแผ่นกลาง (Stripper Plate) คั่นอยู่ เมื่อเปิด แม่พิมพ์จะเปิดออก 2 จังหวะ: ทางวิ่งจะถูกตัดออกจากชิ้นงานก่อน แล้วชิ้นงานจึงถูกดีดออก (ระบบ Cold Runner) | 🔹 ตำแหน่งจุดฉีดมีความ ยืดหยุ่นสูง (เช่น Pin-Point Gate) 🔹 ชิ้นงานมีรอยจุดฉีดที่เล็กกว่า ทำให้ได้ ความสวยงามสูง 🔹 เหมาะสำหรับแม่พิมพ์ที่มีหลายโพรง (Multi-Cavity) | 🔸 โครงสร้างซับซ้อนกว่า 2 แผ่น 🔸 ต้นทุนการผลิตแม่พิมพ์ สูงกว่า 2 แผ่น 🔸 รอบเวลาการทำงาน นานกว่า 2 แผ่น (เนื่องจากมี 2 จังหวะการเปิด) | ปานกลาง (Medium) |
| 3. แม่พิมพ์ Hot Runner (Hot Runner Mold) | เป็นแม่พิมพ์ที่ใช้ ระบบทางวิ่งร้อน (Manifold) ที่มีการควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรักษาพลาสติกในช่องทางวิ่งให้ หลอมเหลวอยู่เสมอ ชิ้นงานถูกฉีดโดยตรงเข้าสู่โพรงแม่พิมพ์ (Gate-to-Part) | 🔹 ไม่มีเศษพลาสติกจากทางวิ่ง (Zero Runner Waste) ช่วยประหยัดวัสดุสูงมาก 🔹 รอบเวลาการทำงาน เร็วที่สุด และเอื้อต่อระบบอัตโนมัติ 🔹 คุณภาพชิ้นงานสม่ำเสมอและดีกว่า | 🔸 ต้นทุนการผลิตแม่พิมพ์เริ่มต้น สูงที่สุด 🔸 การบำรุงรักษาซับซ้อน ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ 🔸 ต้องระวังปัญหาการรั่วไหลหรือความเสียหายของฮีตเตอร์ | สูง (High) |
สรุปการใช้งาน
แม่พิมพ์ 2 แผ่น: เหมาะสำหรับชิ้นงานที่ เรียบง่าย มีปริมาณการผลิตน้อยถึงปานกลาง และวัสดุที่ใช้มีราคาไม่แพงมาก
แม่พิมพ์ 3 แผ่น: เหมาะสำหรับชิ้นงานที่มีความ ซับซ้อนปานกลาง ต้องการความสวยงามสูง และต้องกำหนดจุดฉีดในตำแหน่งที่ไม่สามารถทำได้ด้วยแม่พิมพ์ 2 แผ่น
แม่พิมพ์ Hot Runner: เหมาะสำหรับชิ้นงานที่ต้องการการผลิตใน ปริมาณมาก (Mass Production) วัสดุพลาสติกที่ใช้มีราคาสูง และต้องการรอบเวลาการทำงานที่สั้นที่สุด
| ประเภทแม่พิมพ์ | แม่พิมพ์ 2 แผ่น (Two-Plate Mold), แม่พิมพ์ 3 แผ่น (Three-Plate Mold), แม่พิมพ์ Hot Runner (Hot Runner Mold) |
| ระบบทางวิ่ง | Cold Runner, Hot Runner System, ทางวิ่งเย็น, ทางวิ่งร้อน |
| ปัจจัยสำคัญ | ต้นทุนแม่พิมพ์, รอบเวลาผลิต (Cycle Time), เศษพลาสติก (Waste), คุณภาพชิ้นงาน, จุดฉีด (Gate) |
| เทคนิค/วิศวกรรม | การฉีดพลาสติก, Injection Molding, เทคโนโลยีแม่พิมพ์, วิศวกรรมการผลิต |
1. แม่พิมพ์ 2 แผ่น (Two-Plate Mold)
ภาพที่ 1: โครงสร้างและการทำงานของ Two-Plate Mold
ภาพนี้แสดงโครงสร้างพื้นฐานของแม่พิมพ์ 2 แผ่น ที่มี 1 Parting Line และชิ้นงานพร้อม Runner จะถูกดีดออกพร้อมกัน

ภาพที่ 1: โครงสร้างและการทำงานของ Two-Plate Mold
ภาพนี้แสดงโครงสร้างพื้นฐานของแม่พิมพ์ 2 แผ่น ที่มี 1 Parting Line และชิ้นงานพร้อม Runner จะถูกดีดออกพร้อมกัน
2. แม่พิมพ์ 3 แผ่น (Three-Plate Mold)
ภาพที่ 2: โครงสร้างและการทำงานของ Three-Plate Mold
ภาพนี้แสดงโครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้นของแม่พิมพ์ 3 แผ่น ซึ่งมี 2 Parting Lines ทำให้สามารถแยก Runner ออกจากชิ้นงานก่อนได้

ภาพที่ 2: โครงสร้างและการทำงานของ Three-Plate Mold
ภาพนี้แสดงโครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้นของแม่พิมพ์ 3 แผ่น ซึ่งมี 2 Parting Lines ทำให้สามารถแยก Runner ออกจากชิ้นงานก่อนได้
3. แม่พิมพ์ Hot Runner (Hot Runner Mold)
ภาพที่ 3: โครงสร้างและการทำงานของ Hot Runner Mold
ภาพนี้แสดงระบบ Hot Runner ที่รักษาพลาสติกในช่องทางวิ่งให้หลอมเหลวอยู่เสมอ และฉีดเข้าชิ้นงานโดยตรง ทำให้ไม่มี Runner Waste

ภาพที่ 3: โครงสร้างและการทำงานของ Hot Runner Mold
ภาพนี้แสดงระบบ Hot Runner ที่รักษาพลาสติกในช่องทางวิ่งให้หลอมเหลวอยู่เสมอ และฉีดเข้าชิ้นงานโดยตรง ทำให้ไม่มี Runner Waste
4. สรุปเปรียบเทียบ (Comparison Summary)
ภาพที่ 4: ตารางสรุปเปรียบเทียบคุณสมบัติหลัก
ภาพนี้เป็นตารางสรุปข้อดี ข้อเสีย และต้นทุนของแม่พิมพ์ทั้งสามประเภท เพื่อให้เห็นภาพรวมและช่วยในการตัดสินใจเลือกใช้

ภาพที่ 4: ตารางสรุปเปรียบเทียบคุณสมบัติหลัก
ภาพนี้เป็นตารางสรุปข้อดี ข้อเสีย และต้นทุนของแม่พิมพ์ทั้งสามประเภท เพื่อให้เห็นภาพรวมและช่วยในการตัดสินใจเลือกใช้

