ในการผลิตชิ้นงานพลาสติก การคำนวณ รอบฉีดพลาสติก (Injection Cycle Time) มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนรวมของโรงงาน หากสามารถลดเวลาในแต่ละรอบได้เพียง 1–2 วินาที ก็สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน แรงงาน และเพิ่มจำนวนชิ้นงานต่อวันได้อย่างมีนัยสำคัญ จึงกลายเป็นหนึ่งในเทคนิคสำคัญที่โรงฉีดพลาสติกใช้ในการเพิ่มกำไร
องค์ประกอบหลักของรอบฉีด (Injection Molding Cycle)
- Injection Time – เวลาในการฉีดพลาสติกหลอมเข้าแม่พิมพ์
- Holding Time – เวลาในการอัดคงรูปให้แน่นขึ้น
- Cooling Time – เวลาในการทำให้ชิ้นงานแข็งตัว
- Mold Open/Close Time – เวลาเปิด–ปิดแม่พิมพ์
- Ejecting Time – เวลาในการดีดชิ้นงานออก
ในขั้นตอนเหล่านี้ Cooling Time ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด เนื่องจากใช้เวลาประมาณ 60–70% ของรอบการฉีดทั้งหมด การปรับอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น การออกแบบคูลลิ่งไลน์ และการควบคุมอุณหภูมิให้คงที่สามารถลดรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สูตรคำนวณเวลาในรอบการฉีด
Cycle Time = Injection Time + Holding Time + Cooling Time + Mold Open/Close + Ejecting Time
หากต้องการลดต้นทุนการผลิต ควรโฟกัสที่การปรับ Cooling Time ให้เหมาะสม การลดลงเพียง 10% สามารถเพิ่มชิ้นงานรายเดือนได้หลายเท่าตัว ทั้งยังลดปัญหา Defect เช่น บิดงอ ยุบตัว หรือผิวไม่เรียบ ทำให้คุณภาพชิ้นงานดีขึ้นพร้อมกับลดต้นทุนไปในตัว
ตัวอย่างคำนวณรอบฉีดพลาสติก (กรณีศึกษา)
Injection Time = 2.5 s Holding Time = 4.0 s Cooling Time = 12 s Open/Close Mold = 2.0 s Ejecting Time = 1.5 s Cycle Time = 2.5 + 4.0 + 12 + 2 + 1.5 = 22 seconds
หากสามารถลด Cooling Time ลงเหลือ 10 วินาที จะทำให้รอบฉีดลดลงเหลือเพียง 20 วินาที เพิ่มประสิทธิภาพขึ้นประมาณ 10% และลดต้นทุนพลังงานได้ทันที ถือเป็นกลยุทธ์ที่นิยมใช้ในโรงฉีดสมัยใหม่ที่เน้น Lean Manufacturing และการเพิ่มความคุ้มค่าในการผลิต
สรุป
การคำนวณรอบฉีดพลาสติกอย่างแม่นยำเป็นกุญแจสำคัญของการควบคุมต้นทุนการผลิต การปรับพารามิเตอร์ให้เหมาะสมจะช่วยเพิ่มผลผลิต ลด Defect และลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กระบวนการฉีดพลาสติกมีความเสถียรและสร้างกำไรได้มากขึ้น
Injection Molding,Plastic Cycle Time,ลดต้นทุนการผลิต,เทคนิคการฉีดพลาสติก,โรงงานฉีดพลาสติก

