ในงานผลิตแม่พิมพ์อุตสาหกรรม การเลือกใช้ Toolpath 5 แกน ที่เหมาะสมกับ Core และ Cavity มีผลโดยตรงต่อความแม่นยำ คุณภาพผิวงาน และระยะเวลาในการกัดขึ้นรูป โดยเฉพาะแม่พิมพ์ที่มีรูปทรงซับซ้อนและมุมเอียงหลายทิศทาง
ความสำคัญของ Toolpath 5 แกนกับงาน Core และ Cavity
การกัดแม่พิมพ์แบบ 5 แกนช่วยให้เครื่องจักรสามารถปรับมุมของดอกกัดได้อย่างอิสระ ลดปัญหาการชนของดอกกัด (Collision) และเข้าถึงพื้นที่ลึกหรือผิวเอียงในส่วน Core และ Cavity ได้ดีกว่าการกัดแบบ 3 แกน
Toolpath 5 แกนที่เหมาะสมสำหรับ Core
สำหรับงาน Core ซึ่งมักมีผิวโค้งลึกและรายละเอียดสูง ควรเลือกใช้ 5-Axis Swarf Milling หรือ 5-Axis Flowline เพื่อให้ดอกกัดแนบไปกับผิวงานอย่างสม่ำเสมอ ลดรอยขั้นบันได และเพิ่มความเรียบของผิว
Toolpath 5 แกนที่เหมาะสมสำหรับ Cavity
งาน Cavity มักมีผนังเอียงและมุมแคบ การใช้ 5-Axis Contour หรือ Multi-Axis Z-Level จะช่วยควบคุมทิศทางการกัด ลดการสึกหรอของดอกกัด และรักษาความแม่นยำของรูปทรงภายในแม่พิมพ์
ข้อดีของการใช้ Toolpath 5 แกนกับแม่พิมพ์
- ลดจำนวนครั้งในการจับงานใหม่ (Setup)
- เพิ่มความแม่นยำของ Core และ Cavity
- ผิวงานเรียบ ลดงานขัดแต่งภายหลัง
- เหมาะกับแม่พิมพ์ที่มีรูปทรงซับซ้อนสูง
สรุป
การเลือก Toolpath 5 แกนที่เหมาะสมกับ Core และ Cavity ไม่เพียงช่วยเพิ่มคุณภาพแม่พิมพ์ แต่ยังช่วยลดเวลาและต้นทุนในการผลิต เหมาะสำหรับโรงงานที่ต้องการมาตรฐานงานแม่พิมพ์ระดับสูง
Toolpath 5 Axis,Core Cavity,Mold Machining,CNC 5 Axis,CAM Toolpath

