ค้นหา

Custom Search
Home » » ความลับของ H13: ขั้นตอนการอบชุบที่ 'ห้ามพลาด' เพื่อยืดอายุแม่พิมพ์ Die Casting 🔥

ความลับของ H13: ขั้นตอนการอบชุบที่ 'ห้ามพลาด' เพื่อยืดอายุแม่พิมพ์ Die Casting 🔥

basement mold / basement mold remediation / bathroom mold removal / black mold bathroom / black mold bleach / black mold in attic / black mold inspection / black mold removal cost / black mold specialist / black toxic mold symptoms / can mold be removed / can mold cause health problems / certified mold inspections / health department mold inspection / house mold removal / household mold remediation / mold abatement / mold allergic reaction symptoms / mold and fungus removal /


ความลับของ H13: ขั้นตอนการอบชุบที่ 'ห้ามพลาด' เพื่อยืดอายุแม่พิมพ์ Die Casting 🔥

เหล็กกล้า H13 (AISI H13 / SKD61) เป็นวัสดุมาตรฐานสำหรับแม่พิมพ์งานหล่อความดัน (Die Casting) เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว (Thermal Shock) อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อผ่านกระบวนการ อบชุบความร้อน (Heat Treatment) ที่ถูกต้องและแม่นยำเท่านั้น เนื้อหานี้จะเน้นเทคนิคสำคัญที่ "ห้ามพลาด" เพื่อเพิ่ม ความแข็งสีแดง (Red Hardness) และความทนทานต่อความล้าจากความร้อน (Thermal Fatigue)


1. เป้าหมายหลักของการอบชุบ H13: Red Hardness และ Thermal Shock Resistance

ความแข็งสีแดง (Red Hardness)

คือความสามารถของเหล็กกล้าในการ รักษาความแข็ง (Hardness) ไว้ได้แม้ในขณะที่ชิ้นงานทำงานที่อุณหภูมิสูง (500°C - 600°C) ในกระบวนการ Die Casting การมี Red Hardness สูงจะช่วยให้แม่พิมพ์ไม่ยุบตัวหรืออ่อนตัวลงเมื่อสัมผัสกับโลหะเหลวร้อน ซึ่งช่วยป้องกันการสึกหรอ (Wear) และการเปลี่ยนรูปถาวร

ความทนทานต่อ Thermal Shock (Thermal Shock Resistance)

คือความสามารถของแม่พิมพ์ในการทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วและซ้ำๆ (จากอุณหภูมิสูงเมื่อสัมผัสโลหะเหลว ไปสู่อุณหภูมิต่ำเมื่อฉีดสารหล่อเย็น) การอบชุบที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความเหนียว (Toughness) และลดโอกาสการเกิดรอยร้าวที่ผิว (Heat Checking/Thermal Fatigue)


2. ขั้นตอนการอบชุบความร้อน H13 ที่ "ห้ามพลาด"

กระบวนการอบชุบ H13 ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องควบคุมอย่างเข้มงวด:

2.1 การเตรียมการก่อนการชุบแข็ง (Pre-Heating)

  • เทคนิคสำคัญ: ต้องทำการอุ่นแม่พิมพ์ให้ถึงอุณหภูมิที่กำหนด (ประมาณ $650^\circ\text{C}$ ถึง $850^\circ\text{C}$) โดยรักษาอุณหภูมิให้นานพอที่จะให้ความร้อนกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งชิ้นงาน

  • เหตุผลที่ห้ามพลาด: ช่วย ลดความแตกต่างของอุณหภูมิ ระหว่างผิวกับแกนกลาง (Thermal Gradient) ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนชุบแข็งจริง ซึ่งช่วยลดความเครียดทางความร้อน (Thermal Stress) และป้องกันการแตกร้าวระหว่างการชุบ

2.2 การชุบแข็ง (Austenitizing / Hardening)

  • เทคนิคสำคัญ: นำชิ้นงานเข้าเตาเผาที่อุณหภูมิสูง (ปกติประมาณ $1000^\circ\text{C}$ ถึง $1030^\circ\text{C}$) และ "แช่" (Soaking) ที่อุณหภูมินี้นานพอสมควร

  • เหตุผลที่ห้ามพลาด: อุณหภูมิและการแช่ที่เหมาะสมจะช่วยให้ธาตุผสมสำคัญ (เช่น Vanadium, Molybdenum) ละลายเข้าสู่โครงสร้างออสเทนไนต์อย่างสมบูรณ์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเกิดสารประกอบคาร์ไบด์รอง (Secondary Carbides) ในขั้นตอนการอบคืนตัว ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่ม Red Hardness

2.3 การทำให้เย็นตัว (Quenching)

  • เทคนิคสำคัญ: ควรใช้ การชุบในอากาศ (Air Quenching) หรือ การชุบในไนโตรเจนแรงดันสูง (Pressure Quenching)

  • เหตุผลที่ห้ามพลาด: ต้องควบคุมอัตราการเย็นตัวให้เร็วเพียงพอเพื่อสร้างโครงสร้างมาร์เทนไซต์ (Martensite) ที่มีความแข็งสูง แต่ ห้ามเย็นตัวเร็วเกินไป (เช่น ชุบน้ำมัน) เพราะจะทำให้ความเค้นตกค้าง (Residual Stress) สูงเกินไปจนเกิดการแตกร้าวได้ง่าย

2.4 การอบคืนตัวหลายครั้ง (Multiple Tempering)

  • เทคนิคสำคัญ: ต้องทำการอบคืนตัวอย่างน้อย สองครั้ง (Double Tempering) และในบางกรณีอาจต้องสามครั้ง (Triple Tempering) โดยอุณหภูมิที่ใช้ควรอยู่ในช่วงที่เกิดการแข็งตัวทุติยภูมิ (Secondary Hardening Range) เช่น $540^\circ\text{C}$ - $620^\circ\text{C}$

  • เหตุผลที่ห้ามพลาด: การอบคืนตัวครั้งแรกจะเปลี่ยนโครงสร้างมาร์เทนไซต์และคลายความเค้นบางส่วน ส่วนการอบคืนตัว ครั้งที่สอง (และครั้งที่สาม) มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้เกิด Secondary Hardening (การตกตะกอนของคาร์ไบด์รอง) ซึ่งเป็นการเพิ่ม Red Hardness อย่างแท้จริง และเปลี่ยนออสเทนไนต์คงค้าง (Retained Austenite) ให้กลายเป็นมาร์เทนไซต์ ทำให้โครงสร้างมีเสถียรภาพสูงสุดและทนทานต่อ Thermal Shock ได้ดีเยี่ยม


ชื่อเหล็กกล้าH13, SKD61, เหล็กกล้างานร้อนH13 Tool Steel, SKD61, Hot Work Steel
หัวข้อหลัก/เทคนิคการอบชุบความร้อน, Die Casting, Heat Treatment, เทคนิคการชุบแข็ง, อบคืนตัวหลายครั้งHeat Treatment, Die Casting Mold, Hardening, Multiple Tempering
คุณสมบัติสำคัญRed Hardness, ความแข็งสีแดง, Thermal Shock, ทนทานความร้อน, Thermal FatigueRed Hardness, Thermal Shock Resistance, Heat Resistance, Hot Toughness
ขั้นตอนการอบชุบการชุบแข็ง, อบคืนตัว, การอุ่นก่อนชุบ, Quenching, Pre-heatingAustenitizing, Quenching, Tempering
การประยุกต์ใช้แม่พิมพ์หล่อความดัน, ยืดอายุแม่พิมพ์Die Casting Dies, Mold Life Extension

ภาษาไทย:

  • H13

  • อบชุบความร้อน

  • Die Casting

  • Red Hardness

  • Thermal Shock

  • อบคืนตัวหลายครั้ง

  • SKD61

ภาษาอังกฤษ:

  • H13 Tool Steel

  • Heat Treatment

  • Die Casting

  • Red Hardness

  • Thermal Shock

  • Multiple Tempering

ในภาพนี้: การอุ่นก่อนชุบแข็ง (Pre-Heating) และการชุบแข็ง (Austenitizing)

ภาพนี้จะแสดงเตาอบชุบความร้อน โดยมีชิ้นส่วนแม่พิมพ์ H13 อยู่ภายในเตาที่กำลังร้อนแดง สื่อถึงขั้นตอนการอุ่นแม่พิมพ์อย่างสม่ำเสมอและการแช่ที่อุณหภูมิสูงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการชุบแข็ง

mold basement mold cleanup mold damage mold in bathroom health symptoms mold inhalation treatment mold inspection mold mitigation mold professional mold remediation mold removal mold removal house mold specialist remove house mold

Mould Industry Category | หมวดแม่พิมพ์อุตสาหกรรม

10อันดับเรื่องแม่พิมพ์อุตสาหกรรม

ประเภทของแม่พิมพ์อุตสาหกรรม

บทความของแม่พิมพ์อุตสาหกรรม